สำหรับว่าที่เจ้าสาวมือใหม่ ยิ่งใกล้ถึงวันงานแต่งงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ไหนจะสับสนในชีวิตว่าจะเริ่มต้นทำอะไรก่อนอะไรหลังดีหนา ตั้งสติกันก่อนนะจ๊ะสาวๆ จ๋า วันนี้เรารวบรวบเอาหลายเหตุการณ์ที่มีการเก็บแบบเป็นสถิติแบบไม่เป็นทางการแล้วว่า ร้อยทั้งร้อยว่าที่เจ้าสาวจะต้องได้พบเจอแน่นอนถึงแม้ว่าอาจจะไม่ครบทุกข้อก็ตาม มาลองติดตามดูเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังต่อไปนี้ รู้ไว้ไม่เสียหลายค่ะ
- คุณจะเลือกพร็อพหรือสิ่งใดก็ตามที่ตกแต่งในงานแต่งที่เชยๆ ทั้งที่ตอนเลือกก็คิดว่ามันชิคและคูลสุดๆ จากประสบการณ์ในงานแต่งงานของเจ้าสาวหลายๆคน จะรู้สึกในภายหลังว่าเธอเลือกอะไรที่ไม่ค่อยจะเข้าท่าเอาเสียเลย ประมาณว่า ชั้นเลือกเข้าไปได้ยังไง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำสิ่งนี้แน่นอน อะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าเมื่อจะต้องเลือกอะไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ อุปกรณ์ตกแต่งงาน ฯลฯ ควรจะมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์หลายๆ คนช่วยกันคิด เพื่อความไม่ประมาท
- ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งที่เคยมีประสบการณ์ตรงหรือยังไม่มีแต่ได้อ่านหนังสือหรือเคยไปงานแต่งงานมาแล้วหลายๆ ที่ จะเข้ามาช่วยแนะนำคุณทุกอย่าง ตั้งแต่ควรจะเลือกชุดแบบไหน สีอะไร พูดอย่างไร เดินอย่างไร แล้วแต่ละคนก็จะมีแนวทางหลากหลายสไตล์ใครสไตล์มัน จนเราอาจจะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเชื่อใครดี คนนั้นก็มีเหตุผลดี คนนี้ก็พูดจาน่าเชื่อถือ โอย ในสถานการณ์แบบนี้ แนะนำว่าต้องดึงสติให้ดีค่ะ อย่าหวั่นไหวทำใจให้นิ่ง พยายามหาตรงกลางที่ลงตัวมากที่สุด ถ้าลำบากใจมากการปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์ก็เป็นทางออกที่ดีค่ะ
- คุณจะพูดถึงแต่เรื่องงานแต่งงาน การเตรียมงาน การหาชุด เลือกธีมอะไรดี ต้องเชิญใครบ้าง บลาๆๆ อยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่งเข้านอน ในหัวคุณจะมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น ทั้งในเวลาที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนฝูง แม้กระทั่งในเวลางานก็ต้องมีแอบแวบเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ท ซึ่งมันอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักถ้าเจ้านายมาเจอเข้า แนะนำว่าให้แบ่งเวลาให้เหมาะสมไม่ต้องหมกมุ่นหรือกังวลจนเกินไป การวางแผนที่ดีและเช็คลิสต์จะช่วยคุณได้มาก
- ชุดเจ้าสาวที่เลือกได้ในตอนสุดท้าย มักจะเป็นแบบตรงกันข้ามกับที่คุณจินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง นี่เป็นผลของการเบรนสตอร์มอย่างแท้จริง เช่น ถ้าคุณคิดเอาไว้ว่าคุณจะไม่เอาชุดสไตล์นี้เลยเด็ดขาด แต่สุดท้ายมันจะมาอยู่บนร่างกายของคุณอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณหนักแน่นในเจตนารมณ์ของตัวเองมากพอ เหตุการณ์ก็ไม่เกิดขึ้นกับทุกคนเสมอไปหรอกนะคะ
- สิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเสมอ ขอให้สูดหายใจให้ลึกๆ ตั้งสติให้มั่น เตรียมรับมือกับมันไว้ให้เต็มที่ หรือไม่ก็หามือขวาที่ไว้ใจได้คอยแบ่งเบาสถานการณ์ เช่น ทั้งๆที่คำนวณไว้ดีแล้วทุกอย่างแต่พอถึงวันงานเกิดโต๊ะไม่พอกับแขก แขกมาเร็วเกินไป ระบบไฟขัดข้อง ฝนตก เกิดม็อบขวางทางเข้างาน ฯลฯ
- คุณจะรู้สึกแปลกๆ กับเจ้าบ่าวของคุณ ว่าคุณกำลังแต่งงานกับใครกันนี่ เพราะเขาจะไม่เหมือนกับชายหนุ่มที่คุณคุ้นเคยเลยโดยสิ้นเชิง โดยอาจจะดูหล่อเหลาเอาการมากกว่าเดิม หรือเอ๊ะ ทำไมวันนี้หน้ากลมขึ้นหรือกรามใหญ่ขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะชุดที่เขาสวมใส่รวมทั้งบรรยากาศแวดล้อมบันดาลพาให้มึนงงและสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่เลือกชุดเจ้าบ่าวเองแต่ให้เขาเป็นคนเลือก ความรู้สึกนี้จะทวีคูณขึ้นหลายเท่า
- ความสามารถในการอธิบายสิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างจำกัดคือ สมองจะเบลอๆ คล้ายกับล่องลอยอยู่บนปุยเมฆก็มิปาน จะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง พูดง่ายๆ คือจะตื่นเต้นมากจนเกิดการรวนขึ้นในระบบประสาทสัมผัสต่างๆ นั่นเอง ข้อแนะนำให้สูดหายใจลึกเป็นระยะๆ ตั้งสติให้อยู่กับกายไว้ให้มั่น
- คุณจะรู้สึกกังวลเมื่อเห็นคนอื่น เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อน แขกผู้มีเกียรติ ที่อาจจะแสดงท่าทีไม่พอใจกับงานแต่งงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รสชาติของอาหาร ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ความสะดวกในการจัดงาน แนะนำว่าไม่ต้องไปกังวล คิดเสียว่า let it be, let it be
- งานจะต้องถูกเปรียบเทียบอยู่แล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ว่างานนี้ดีกว่างานของคนโน้น แย่กว่างานของคนนั้น อย่าไปสนใจ คิดเสียว่าก็คุณไม่ได้มีประสบการณ์จัดงานแต่งงานบ่อยๆ นี่ ใครๆ ส่วนมากก็แต่งงานเป็นครั้งแรกในชีวิตกันทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นเหมือนกับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ไม่มีโอกาสกลับมาแก้ตัวใหม่ ท่องไว้ค่ะ nobody is perfect…
- คุณจะหลั่งน้ำตาแห่งความสุขใจ ตื้นตันมากกว่าที่คิดไว้หลายหยด เมื่อถึงโมเม้นท์ซึ้งๆ รับรองว่างานของคุณกลายสภาพเป็นทะเลแห่งน้ำตา เพราะฉะนั้นเตรียมผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชูไว้ใกล้มือเป็นการดีที่สุด อย่าลืมเตรียมเผื่อเจ้าบ่าวด้วย รักกันต้องดูแลกันค่ะ
ขอบคุณไอเดียจาก http://www.weddingideasmag.com
