การทำพิธีรดน้ำสังข์ในประเพณีไทย

การจัดงานแต่งงานเดี๋ยวนี้ขั้นตอนต่างๆ ได้ถูกตัดทอนออกไปหลายขั้นตอนมาก เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อะไรที่ไม่สำคัญและดูสิ้นเปลืองก็จะตัดออกไป แต่ก็ยังคงรักษาพิธีที่คนไทยเราได้ทำกันตามธรรมเนียมสืบต่อมาโดยวันนี้เราจะมากล่าวถึง “พิธีรดน้ำสังข์” และ “ขั้นตอนในการทำพิธีรดน้ำ” กันครับ

พิธีรดน้ำสังข์

พิธีรดน้ำสังข์

ขั้นแรกเมื่อถึงเวลาดีแล้ว พระผู้เป็นประธานจะเข้ามาเจิมหน้าผากให้กับคู่เจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยจะเจิมให้เจ้าบ่าว 3 จุดตรงๆ แต่กับฝ่ายเจ้าสาวพระจะจับมือของเจ้าบ่าวเจิมให้กับเจ้าสาวของตนเพราะพระนั้นสัมผัสหรือถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่ได้

หลังจากนั้นจึงทำมงคลแฝดขึ้นมาสวมให้กับคู่บ่าวสาวคนละข้างโดยมีสายโยงห่างกันระหว่างมงคลยาวประมาณ 2 ศอกกว่า และเพื่อความสะดวกปลายของมงคลก็จะโยงเข้าไปที่ขันหรือบาตรน้ำมนต์ และส่วนหางของสายสิญจน์พระสงฆ์ทุกองค์จะเข้ามาจับเส้นไว้ในมือจนไปถึงองค์สุดท้ายก็จะวางม้วนสายสิญจน์เอาไว้บนพาน ส่วนคู่บ่าวสาวก็จะจัดแจงนั่งในบริเวณที่ทำไว้พร้อมกับมีหมอนรองมือและพานรองน้ำสังข์วางอยู่ใกล้ๆ กัน

ในส่วนของเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะยืนอยู่ด้านหลังของทั้งคู่ และญาติผู้ใหญ่ก็จะทยอยเข้ามารดน้ำสังข์ให้แก่คู่บ่าวสาวตามลำดับ การเลือกคนมาเป็นเพื่อนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั้นได้มีคติเชื่อกันว่าควรเลือกคนที่มีอายุน้อยหรือไกล้เคียงกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวและควรเป็นคนที่ไกล้จะได้แต่งงานหรือมีโครงการเร็วๆ นี้เพราะมีความเชื่อว่าถ้าเลือกคนโสดคนนั้นอาจจะต้องกลายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวตลอดไปไม่มีโอกาสได้จัดงานแต่งงานของตน

แต่ความจริงแล้วอาจจะเป็นอุบายที่ผู้ใหญ่ต้องการให้คนที่ไกล้จะได้แต่งงานได้รู้ถึงขั้นตอนการแต่งงานของคนที่ตนมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว เมื่อถึงเวลาของตนเองจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

ขั้นตอนในการทำพิธีรดน้ำสังข์

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมการทำพิธีรดน้ำสังข์จะต้องใช้หอยสังข์เป็นภาชนะใส่น้ำมนต์มาหลั่งเพื่ออวยพรให้กับคู่บ่าวสาว นั่นก็เพราะในสมัยโบราณได้มีความเชื่อกันว่าหอยสังข์เป็นหนึ่งในสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่างที่เกิดจากกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดาและอสูร บางความเชื่อก็เล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งสังข์อสูรได้ลักเอาพระเวทไปซ่อนภายในหอยสังข์ พระนารายณ์จึงได้อวตารลงมาปราบและสังหารเสีย จากนั้นก็ทรงล้วงพระเวทออกมาจากหอยสังข์ ทำให้ปากของหอยสังข์มีรอยพระหัตถ์ของพระนารายณ์อยู่ จึงเชื่อกันว่าสังข์เป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ เพราะเคยเป็นที่รองรับพระเวท จึงมีการนำหอยสังข์มาใส่น้ำมนต์รดให้กับคู่บ่าวสาวเพื่อเป็นศิริมงคล

ในพิธีรดน้ำคู่บ่าวสาวจะสวมแฝดมงคลและนั่งพนมมืออยู่คู่กันในสถานที่จัดไว้ จากนั้นจะมีคนมาคอยตักน้ำพระพุทธมนต์เติมในสังข์เพื่อส่งให้กับผู้ที่จะมารดน้ำอวยพร โดยบุคคลแรกที่จะเข้ามารดน้ำอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาวคือพ่อและแม่ของคู่บ่าวสาว หรือญาติผู้ใหญ่ตามลำดับ การรดน้ำนิยมรดไปยังมือของเจ้าสาวก่อนแล้วจึงรดให้กับเจ้าบ่าว จากนั้นก็กล่าวคำอวยพรให้กับทั้งสองคนให้ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่ามีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง

ในขณะที่ทำการรดน้ำสังข์ พระสงฆ์จะสวดชยันโตเพื่อความเป็นศิริมงคลให้แก่คู่บ่าวสาว แต่ในสมัยนี้มักจัดพิธีรดน้ำสังข์กันในตอนเย็นก่อนจะถึงเวลากินเลี้ยง และมักจะจัดที่โรงแรมหรือหอประชุม ดังนั้นหากอยากให้มีพระสงฆ์มาสวดชยันโตให้ต้องทำการนิมนต์พระมาด้วย

ในพิธีรดน้ำสังข์ได้มีเคล็ดเชื่อกันว่าหลังจากพิธีเสร็จแล้วหากคู่บ่าวสาวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลุกก่อนฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ที่อยู่เหนือคู่ของตนดังนั้นเพื่อเป็นการแก้เคล็ดจึงควรช่วยกันประคองลุกขึ้นพร้อมกันแบบนี้จะดูน่าประทับใจมากกว่า

ในพิธีแต่งงานสมัยโบราณพิธีรดน้ำสังข์นั้นไม่มี มีเพียงพิธีซัดน้ำที่พระสงฆ์จะเป็นผู้ทำพิธีโดยตักน้ำมนต์ในบาตรสาดให้กับคู่บ่าวสาว เพื่อของคู่บ่าวสาวก็จะเข้ามาแกล้งนั่งห้อมล้อมเพื่อให้คู่บ่าวสาวต้องนั่งเบียดกันเวลาโดนน้ำมนต์สาดใส่ก็จะเปียกปอนดูเป็นที่สนุกสนานครื้นเครงไปอีกแบบ


Top
error: